• แฮร์รี่ เคน (Harry Kane)

กัปตันคนเก่ง ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของทีม ทั้งเรื่องฝีเท้าและการเป็นผู้นำ ฟอร์มยิงกระจายของเคนกับ บาเยิร์น มิวนิค ทำให้ แกเร็ธ เซาธ์เกต (Gareth Southgate) กุนซือทีมชาติอังกฤษ เบาใจเรื่องกองหน้าตัวเป้าไปเยอะ

• จู๊ด เบลลิงแฮม (Jude Bellingham)

ดาวรุ่งวัย 20 ปี พุ่งทะยานขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมชาติอังกฤษอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเล่นให้ทีมชาติหรือสโมสรใหม่ อย่าง เรอัล มาดริด ก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น ทั้งยิงประตูและแอสซิสต์ มีลุ้นเป็นคู่หูกับเคนในแนวรุก แม้จะเคยมีอาการบาดเจ็บไปบ้าง แต่ตอนนี้หายดีแล้ว

• เดคลาน ไรซ์ (Declan Rice)

กองกลางตัวรับคนสำคัญของอาร์เซน่อล มีบทบาทสำคัญในทีมชาติอังกฤษมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นตัวตัดเกมที่ขาดไม่ได้

• จอน สโตนส์ (John Stones)

กองหลังคนเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นตัวหลักของเซาธ์เกตมานาน ฟอร์มการเล่นอาจจะไม่ค่อยสม่ำเสมอ แต่ถ้าฟิต ก็การันตีได้เลยว่าจะได้ติดทีมชาติ

• ไคล วอล์คเกอร์ (Kyle Walker)

ฟูลแบ็คมากประสบการณ์ ความเร็วในการเติมเกมรุก และความสามารถเล่นเป็นกองหลังตัวกลางในระบบ 3 คน ทำให้ วอล์คเกอร์ เป็นตัวหลักในแผนการเล่นของเซาธ์เกต

• จอร์แดน พิคฟอร์ด (Jordan Pickford)

นายทวารมือหนึ่งของเอฟเวอร์ตัน ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะคู่แข่งอย่าง آرอน รัมสเดล (Aaron Ramsdale) โดน ดาบิด รายา (David Raya) แย่งตำแหน่งตัวจริงไปที่อาร์เซน่อล

• บูกาโย ซาก้า (Bukayo Saka)

ดาวรุ่งวัย 22 ปี เป็นกำลังหลักของทีมชาติอังกฤษไปแล้ว ความสามารถเล่นได้ทั้งริมเส้นฝั่งซ้ายและขวา แถมยังยืนเป็นวิงแบ็คตัวรุกได้อีกด้วย ตอบโจทย์ระบบการเล่นที่หลากหลายของเซาธ์เกต

• ฟิล โฟเด้น (Phil Foden)

แข้งฟอร์มฮอตของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายเป็นตัวหลักของทีม มีจุดเด่นเรื่องการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม เซาธ์เกตมีโจทย์ให้คิดหนักในการจัดตัวจริง เพราะต้องหาตำแหน่งให้ลงเล่นร่วมกับ เบลลิงแฮม ซาก้า และคนอื่นๆ